• Facebook
• Twitter
• Line

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคขณะนี้ ว่า ยังไม่มีการนัดประชุมเพื่อแก้ปัญหา เนื่องจาก สส.ส่วนใหญ่ต่างลงพื้นที่ เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าจะกลับมาอีกครั้งในช่วงเปิดสมัยประชุมวันที่ 3 ก.ค.

“กลุ่มไลน์พรรคขณะนี้เงียบมาก ยังไม่มีการพูดคุยอะไรกัน เข้าใจว่าขณะนี้เลขาฯ พรรค (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) ได้ชี้แจงผ่านสื่อต่าง ๆไปครบถ้วนแล้ว ก็เป็นไปตามที่ได้ชี้แจง” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

ส่วนที่นายเอกนัฎ ระบุว่าเอกสารที่ 21 สส.ของพรรคฯ ไปยื่นให้นายกรัฐมนตรี เพื่อขอปรับครม.ในสัดส่วนโควต้าของพรรค เป็นเอกสารที่มีการปลอมลายเซ็นต์นั้น โฆษก รทสช. กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ สส. เจ้าของลายเซ็นที่ต้องเอามาชี้แจงเอง

ทั้งนี้ โฆษก รทสช. ยังไม่ขอแสดงความเห็นต่อคำถามที่ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้า พปชร. ประกาศว่าไม่สามารถพูดคุยกับนายเอกนัฎ ได้ เพราะมีความพยายามจะล้มตำแหน่งหัวหน้าพรรค จากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โดยนายอัครเดช กล่าวเพียงว่าไม่เคยได้ยินว่านายสุชาติ ออกมากล่าวเช่นนั้น แต่โดยหลักแล้วคิดว่าเรื่องนี้คงต้องพูดคุยกัน เพราะการพูดคุยกันจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาให้แก่พรรคได้

พร้อมยอมรับว่า สถานการณ์ภายในพรรครวมไทยสร้างชาติขณะนี้ ถือว่าสุดแล้ว คงจะไม่มีสุดไปกว่านี้ และเชื่อว่าหากทุกคนได้พูดคุยและแก้ปัญหาร่วมกัน สถานการณ์คงจะค่อย ๆ ดีขึ้น พร้อมมองว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังหน้าจะเดินต่อไปได้ และจะพยายามทำพรรคให้เป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้

“ยังไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของนายสุชาติ ขอไปติดตามก่อนว่าให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไร แต่โดยหลักใหญ่ คิดว่าคงจะต้องพูดคุยกัน เพราะการพูดคุยเป็นเวทีในการแก้ปัญหา ปัญหาการเมือง ก็ต้องใช้การเมืองแก้ปัญหา เพราะทั้งนายเอกนัฏ และนายสุชาติก็เป็น รัฐมนตรีและ ผู้ใหญ่ของพรรคทั้งคู่ ดังนั้นการคุยกัน จะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาให้กับพรรค” โฆษก รทสช.กล่าว และยืนยันว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องดีลที่มีความพยายามจะล้มนายพีระพันธุ์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

นายอัครเดช ยังไม่เชื่อว่ากรณีของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะซ้ำรอยพรรคพลังประชารัฐ เพราะทั้ง 2 พรรคมีบริบทที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือสถานการณ์

“อย่าไปด่วนสรุป ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเหมือนพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ มาถึงจุดนี้ได้จากการสนับสนุนของประชาชน เมื่อมีปัญหา จึงคิดว่าผู้บริหารพรรค จะต้องกลับไปคิดถึงพี่น้องประชาชน ดังนั้นจึงคาดหวังว่าจะมีการพูดคุยกันในพรรค เพราะเลขาธิการพรรคบอกแล้วว่าไม่มีฝ่าย พร้อมจะดูแล สส.ทั้ง 36 คน แต่อาจจะมีการคลาดเคลื่อน และสื่อสารที่ไม่ครบถ้วนบ้าง ก็ต้องพูดคุย เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ”โฆษก พปชร. กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 68)

• Facebook
• Twitter
• Line